ผู้ร่วมสนับสนุน "บ้านแห่งรัก"
ข้อคิดสะกิดใจ
บอกบุญการกุศล
@ บริการเสนอข่าวประชาสัมพันธ์การกุศล ท่านที่มีข่าวสาร/ประชาสัมพันธ์ขององค์กร/หน่วยงาน อันเป็นการกุศลและเป็นประโยชน์ต่อสังคม เรายินดีนำเสนอให้ท่านฟรีครับ ใช้บริการกันได้เลยโดยส่งข่าวไปตามที่อยู่อีเมล์ข้างล่าง
love4home@hotmail.com
หาความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์.....เชิญคลิก
สนใจส่งหนังสือไปได้ที่นางลำพู เดชาวิชิตเลิศ สำนักงานเลขาธิการสภาวัฒนธรรมอำเภอสามชุก ที่ว่าการอำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี 72130 โทร.0 3557 1188
สนใจ ส่งหนังสือไปได้ที่ พระสันติพงศ์เขมะปัญโญ (หลวงพี่ตุ้ม) วัดป่าสุคะโต ตะท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ 36150
1. สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
3. สำเนาสมุดประจำตัวคนพิการ พร้อมเซ็นรับรองสำเนา
4. รูปถ่ายเต็มตัวเห็นสภาพความพิการชัดเจน 1 รูป
5. ให้ระบุที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อมเบอร์โทรศัพท์ (ถ้ามี )
มาที่ สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย 73/7-8 ซอยติวานนท์ 8 ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 โทรศัพท์ 0-2951-0445,0-2951-0447โทรสาร 0-2951-0567 หรือที่ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหว 802/410 หมู่ 12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย 10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 มือถือ 0-1735-2316,0-1372-4201 โทรสาร 0-2990-0331
หมายเหตุ รถวีลแชร์มีเพียงพอสำหรับทุกท่านที่ติดต่อเข้ามา
เพื่อนบ้านแลกลิ้งค์
Banner Exchange
ก๊อปปี้โค้ดด้านล่างไปติดที่เว็บ หรือ Copy ภาพไปแล้วทำลิ้งค์มาที่เรา แล้วเมล์มาที่ webmaster
รวมเพื่อนบ้านแลกลิ้งค์>>
ศาสนสุภาษิต
อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย ชนะตนนั่นแหละ เป็นดี
ปญฺญา ธนํ โหติ ความรอบรู้ เป็นทรัพย์อันประเสริฐ
อ่านศาสนสุภาษิตทั้งหมด>>
จงอย่าทำ
พยากรณ์อากาศ
Stock Movement
Exchange Rate
Gold Price
ทุกวันนี้ผมไม่แปลกใจที่บรรดาวัยรุ่นหนุ่มสาวมักนิยมสินค้าที่มี Brand ดังๆ คนในวัยทำงานก็เช่นกันหากเป็นไปได้ก็คงต้องการสวมใส่นาฬิกา ใช้ปากยี่ห้อดัง และขับรถราคาแพงๆ แต่งกายด้วยเสื้อกางเกงมีระดับ ทั้งนี้เพราะเรามักจะมองคนแต่เพียงภายนอก โดยไม่ได้มองเข้าไปถึงความดีภายในของแต่ละคน สมัยนี้จึงมีโจรในคราบผู้ดีเกิดขึ้นมากมาย การที่คนเราจะเป็นคนดีได้นั้นไม่ใช่ดูจากสิ่งที่ตาเราสามารถมองเห็นได้แต่ต้องมองให้ลึกไปถึงภายในโดยดูจากการกระทำของเขาเหล่านั้น หากสังคมเราสอนให้คนเคารพในความดี มากกว่าการเคารพในอำนาจและเงินทองบ้านเมืองเราคงน่าอยู่ยิ่งขึ้น ผมมีเรื่องที่หญิงสาวคนหนึ่งได้เขียนเล่ามาให้เราอ่านกันดูดังนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 9 ส.ค. 03 เพื่อนนัดให้ไปเจอกันที่จตุจักร ขณะนั้นดิฉันอยู่ปากซอยอารีย์ ก็เลยคิดว่าไปรถเมล์ดีกว่า 3 ป้ายเอง ปกติจะกลัวรถร่วมบริการมากขนาดที่ว่าเวลาที่ขับรถเองก็จะไม่เข้าไปใกล้ๆรถพวกนี้ แต่วันนั้นด้วยความที่รีบมาก มีรถร่วมบริการสาย 29 มาและว่างพอดีก็เลยคิดว่า ไม่กี่ป้ายคงไม่เป็นไร ดิฉันได้ที่นั่ง ..กระเป๋ารถเมล์เป็นผู้หญิงใส่ชุดสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีเดียวกัน ...เหงื่อไหลไคลย้อย ไม่เหมือนกระเป๋ารถปอ.สีส้มที่ว่ากันว่าได้ ISO ของ ขสมก. เลย ดิฉันมองแล้วไม่กล้ามองนาน เพราะดูจากภายนอกหน้าตาเธอ ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย ...ชื่อที่หน้าอกก็ไม่ปัก...ดิฉันคิด พอถึงสะพานควาย มีลุงคนหนึ่งขึ้นมา ลุงแกแก่มาก หลังงุ้ม อายุน่าจะ 60 ขึ้นไป แกท่าทางซอมซ่อสุดๆ ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ รองเท้าแตะดำๆ งกๆ เงิ่นๆ แบบชนิดที่ว่า ถ้าไปติดต่อราชการหรือ ไปตามรพ.รัฐบาลล่ะก็ โดนพูดจาใส่แบบที่ตาสีตาสาทั่วไปโดนพวกข้าราชการและนางพยาบาลดูถูกแหงๆ (นี่ไม่ได้ว่ากระทบใครนะคะ แต่มันเป็นความจริงของสังคมไทย) ลุงขึ้นมายืนตรงหน้าดิฉัน...... ทันใดนั้นพี่กระเป๋ารถเมล์พูดขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า "ลุงลงที่ไหนคะ" "รังสิตครับ" ลุงตอบ.. ต้องไปอีกไกลมากนะนั่น จากสะพานควาย ดิฉันกำลังจะลุกให้ลุงนั่ง เพราะตัวเองจะลงป้ายหน้าอยู่แล้ว ดิฉันคิดในใจว่า ลุงคงโดนการบริการแบบที่ดูถูกดูแคลนอีกแน่ แต่อย่างไม่น่าเชื่อ... พี่กระเป๋าที่ดูภายนอกน่ากลัวนั้น แกพูดขึ้นมาด้วยเสียงอันดังมากพอจะได้ยินทั้งคันรถว่า "ขอที่นั่งให้คุณลุงหน่อยค่ะ" ดิฉันอึ้งไป ..ทันใดวัยรุ่นชาย แต่งตัวแบบวัยรุ่นทั่วไป ท่าทางแบบที่ผู้ใหญ่ดูก็คงว่าเป็นพวกคนไม่เอาไหน.. แต่เขาลุกให้ลุงทันทีที่หันมาเห็น...แล้วนะคะ ที่ทำเอาดิฉันอึ้ง คุณลุงที่ดูแสนจะซอมซ่อ และเป็นชาวบ้านตาสีตาสาคนนั้นอีกนั่นแหละ พูดกับเด็กหนุ่มคนนั้นว่า "ขอบพระคุณมากครับ" อย่างชัดถ้อยชัดคำมาก... ก่อนจะลงไปนั่ง.... ทำให้ดิฉันอึ้งอีกครั้งหนึ่ง... . เพราะผู้ชายในสังคมชั้นกลาง ชั้นสูงที่ดิฉันรู้จักหลายคน มีการศึกษา จบเมืองนอก ชาติตระกูลดี... บางคนยังไม่รู้จักแม้แต่การกล่าว"ขอบคุณ" และ"ขอโทษ" ใคร.... ลุงล้วงลงไปในกระเป๋า หยิบเหรียญออกมานับ มือสั่นๆ เพราะความชรานับได้3.50บาท แกก็ยื่นให้กระเป๋ารถเมล์ พี่กระเป๋าบอก "5บาทค่ะ" ลุงทำหน้าเศร้า ..แล้วตอบไปว่า"ไม่มี..." เสียงเบาๆ ดิฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า พี่กระเป๋าแกยิ้ม... เหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไรหรอก แล้วฉีกตั๋วราคา 5บาทนั่น ส่งให้ลุงทั้งๆที่ตัวเองรับเงินมา 3.50 บาท ลุงพูดอีกว่า "ขอบคุณมากครับ" ดิฉันลงที่จตุจักร ก่อนจะลงพยายามจะมองชื่อพี่กระเป๋า อย่างที่บอก แต่แกก็ไม่ได้ปักชื่อ ตอนลงรถเลยดูที่เลขรถ เขียนว่า 29-9 ตอนประมาณบ่าย3โมงครึ่ง ของวันเสาร์ที่9ส.ค เงิน1.50 บาทที่ขาดไปนั้น พี่กะเป๋าคงต้องออกให้ลุง ... น้องผู้ชายคนนั้น อาจจะต้องยืนไปถึงรังสิตเหมือนกัน แต่ดิฉันเชื่อว่า ทุกคนอิ่มใจ ดิฉันนึกโกรธตัวเอง ที่มองคนแค่รูปภายนอก โกรธตัวเอง..ที่แค่มองภาพรวมของ"กระเป๋ารถเมล์" และ"รถร่วมบริการ" ก็เหมาเอาว่า เป็นอย่างที่ใครๆว่ากันทั้งหมด อยากให้ทุกคนไม่มองคนแต่เพียงภายนอกแต่ขอให้หัดมองอะไรในมุมดีๆบ้างเพราะความดีของคนนั้นอยู่ที่ใจ อยู่ที่การแสดงออกและการกระทำ มิฉะนั้นแล้วเราอาจไม่ได้ให้โอกาสดีๆแก่คนดีจริงๆ แต่กลับให้โอกาสนั้นกับคนที่เพียงแต่แต่งตัวดีและเป็นนักแสดงตบตาที่เก่งเท่านั้น
By: พี่ชาย